7 ขั้นตอน สำหรับมือใหม่ที่จะซื้อคอนโด

7 ขั้นตอน สำหรับมือใหม่ที่จะซื้อคอนโด

***ขั้นตอนที่ 1 มีทำเลหรือโครงการที่ชอบ

ก่อนอื่นต้องมีทำเล หรือโครงการที่ต้องการอยู่อาศัย หรือเลือกลงทุนไว้ก่อน พร้อมกับราคาที่เราสามารถซื้อได้คร่าวๆ ในส่วนนี้เราสามารถหาข้อมูลเบื้องต้นได้ตามเว็บไซท์ที่เป็นผู้ประกอบการพัฒนาด้านอสังหาฯได้เลย หรือไม่ก็ตามเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมข้อมูลคอนโด เพื่อนำโครงการและทำเลที่สนใจไปปรึกษากับ ตัวแทนอสังหาฯ หรือเอเจ่น

***ขั้นตอนที่ 2 ปรึกษา เอเจ่น ที่น่าเชื่อถือ

เป็นตัวช่วยสำคัญในการหาคอนโดในราคาดีที่สุด โดยเฉพาะคอนโดรีเซล คอนโดมือสอง หรือคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว เพราะ เอเจ่นจะมีสต๊อกตัวเลือกมากกว่าที่เราเห็นตามเว็บไซท์แน่นอน พร้อมแนะนำเปรียบเทียบ ตัวเลือกโครงการต่างๆ

***ขั้นตอนที่ 3 คำนวณงบประมาณ

ในขั้นตอนนี้เป็นเราเองที่จะต้องใส่ใจให้มากๆ เพราะเราซื้อครั้งเดียว ของแบบนี้ไม่ซื้อบ่อยแน่นอน นอกจากจะเลือกโครงการที่ถูกใจ โครงการในทำเลที่ดีแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ เลือกโครงการที่ไม่เกินกำลังซื้อ จากตัวเลือกที่ เอเจ่นนำเสนอมาให้ เพราะเราจะต้องรับผิดชอบการผ่อนชำระในกรณีที่กู้สินเชื่อกับทางธนาคารในระยะยาว โดยพื้นฐานแล้วการคำนวณงบประมาณในการเลือกซื้อนี้จะคิดมาจากความสามารถในการผ่อนชำระ ภาระหนี้สิน และฐานเงินเดือนที่ได้รับ

***ขั้นตอนที่ 4 วางเงินจอง และวางแผนการเงิน

หากได้โครงการที่ถูกใจ และไม่เกินกำลังซื้อแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายของเงินจอง และค่าทำสัญญาจะซื้อจะขาย เหมือนเป็นจองเอาไว้ก่อนว่าเราจะซื้อห้องนี้จริงๆ โดยปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับโครงการ และขนาดห้อง ซึ่งในส่วนนี้จะต้องเริ่มวางแผนการเงินให้ดี เคลียร์ภาระหนี้สิน เพื่อที่ว่าหลังจากนี้จะได้ยื่นกู้สินเชื่อกับทางธนาคารผ่าน และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้

- กรณีซื้อคอนโดมือหนึ่ง หรือซื้อดาวน์
เป็นคอนโดที่กำลังก่อสร้าง คอนโดที่ผู้ประกอบขายก่อนสร้างเสร็จ การทำสัญญาจะเป็นสัญญาผ่อนดาวน์ โดยผู้ซื้อต้องผ่อนดาวน์ในส่วนที่เหลือ และอาจจะมีขั้นการเปลี่ยนสิทธิ์ หรือเรียกว่า เปลี่ยนชื่อคู่สัญญาใหม่ในกรณีที่ผ่อนดาวน์ต่อจากผู้ขาย (ผู้ซื้อเดิม) และผู้ขาย (ผู้ซื้อเดิม มีการทำสัญญาจะซื้อจะขายกับทางโครงการไปแล้ว สามารถให้ เอเจ่นช่วยดำเนินการได้

- กรณีซื้อคอนโดมือสอง หรือคอนโดรีเซล
เป็นคอนโดสร้างเสร็จแล้วพร้อมโอน หรือคอนโดพร้อมอยู่ เอเจ่นจะช่วยแนะนำดีลกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ หรือดำเนินเรื่อง Pre-Approve ในการลองยื่นกู้สินเชื่อกับทางธนาคารก่อนการทำสัญญา

***ขั้นตอนที่ 5 เตรียมเงินสดไว้วันโอน

การโอนกรรมสิทธิ์ อธิบายง่ายๆ คือ เป็นการเปลี่ยนมือผู้ถือกรรมสิทธิ์ของห้อง ทั้งคอนโดมือหนึ่ง และคอนโดมือสองจะต้องถึงวันที่โอนกรรมสิทธิ์ จะมีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน โดยเอเจ่นจะคำนวณให้ เพื่อให้เราเตรียมเงินสดไว้ล่วงหน้าได้ แบ่งค่าใช้จ่ายเป็น 3 ส่วนดังนี้

- จ่ายให้กรมที่ดิน
● ค่าโอนกรรมสิทธิ์ 2% จากราคาประเมินที่ดิน ซึ่งเราจะจ่ายกันคนละครึ่งกับโครงการหรือผู้ที่ขายต่อให้เรา
● ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ (กรณีกู้ธนาคาร)

- จ่ายให้ธนาคาร
● ค่าประกันอัคคีภัย โดยส่วนใหญ่ก็เป็นประกันที่ทางธนาคารจะให้ผู้ยื่นกู้ซื้อคอนโดทำประกันอัคคีภัยห้องชุดด้วย โดยผู้ซื้อจะต้องชำระเบี้ยประกันและธนาคารจะเป็นผู้รับผลประโยชน์ หากเกิดอัคคีภัยทางธนาคารก็จะได้รับเงินชดเชยในก้อนนี้ แล้วเอาไปหักลบกับยอดที่กู้ซื้อ โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายวันโอนก้อนนี้จะจ่ายในปีแรกหรือเงินผ่อนชำระงวดแรก หรืออาจจะเรียกเก็บทุกๆ 3 ปี หรือปีละครั้งตามแต่เงื่อนไขของธนาคาร

- จ่ายให้โครงการ
● ค่าประกันมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า ทางโครงการมักจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ก่อน แล้วจึงมาเรียกเก็บตามที่ทางการไฟฟ้า การประปากำหนด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขโครงการ และขนาดของมิเตอร์
● ค่ากองทุน เก็บเอาไว้เป็นทุนสำรองสำหรับการดำเนินการต่างๆ ภายในโครงการ คิดตามตารางเมตร และเก็บเพียงครั้งเดียวเท่าน้้น
● ค่าส่วนกลางล่วงหน้า เป็นเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลส่วนกลาง ทางโครงการหรือนิติจะเรียกเก็บก่อน 1 ปีเมื่อเราโอนกรรมสิทธิ์ โดยค่าส่วนกลางนี้จะจ่ายเป็นรายเดือน และคิดตามตารางเมตรต่อเดือน

***ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสัญญาต่างๆ

ในส่วนนี้เรากำลังจะได้โฉนดกันแล้ว หลังสินเชื่ออนุมัติกรมที่ดินจะทำสัญญาซื้อ-ขาย เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อ อาจจะมีเอเจ่น ดำเนินการด้านเอกสารต่างๆ แทนได้ โดยผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่จำเป็นต้องไปด้วยตนเอง แต่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจหรือหนังสือมอบฉันทะไว้ พร้อมแจกแจงรายละเอียดว่าหนังสือฉบับดังกล่าวทำขึ้นเพื่ออะไร และมอบหมายให้ใครเป็นคนดำเนินการ ดังนั้นเราตรวจทานให้ดี เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในภายหลัง

***ขั้นตอนที่ 7 ตรวจห้องก่อนโอน และแต่งห้องสไตล์คุณ

หาจุด Defect ของห้องอย่างละเอียด เพื่อแจ้งโครงการให้แก้ไขก่อนโอนกรรมสิทธิ์ โดยเราสามารถจ้างช่างวิศวกรที่ชำนาญด้วยตัวเองเพื่อให้มาตรวจห้อง หรือจะให้เอเจ่นดำเนินการหาช่างวิศวกรมหาให้ก็ได้ หรือจะตรวจรับเองก็ได้ หากห้องอยู่ในสภาพดีจึงรับโอนและเริ่มตกแต่งได้ หากห้องมีจุดบกพร่อง ควรให้ทางโครงการนำช่างมาแก้ไขให้ดีก่อนจึงรับโอนห้อง

******************************
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ http://www.bangkoksmilecondo.co.th/tips

และติดตามการทำงานของเราตาม link นี้นะคะhttps://www.youtube.com/channel/UCY9UQrkG7d52NgHF6fQJFCA