แต่งคอนโดต้อนรับเจ้าตัวน้อย
แต่งคอนโดต้อนรับเจ้าตัวน้อย
บางครอบครัวเพิ่งจะมีลูกน้อย การจะมองหาบ้านอยู่อาจจะยังไม่พร้อม แบบนี้เราจะดูลูกน้อยยังไงนะ ไม่ให้เกิดปัญหารบกวนผู้อื่น เมื่อต้องอยู่คอนโด
ปัจจุบันด้วยที่ดินที่มีราคาแพงทำให้ยากมากๆ ที่เราจะมีบ้านที่อยู่ใจกลางเมืองไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะกับแหล่งทำเลทอง ก็คงจะยากสำหรับคนธรรมดาทั่วไปจะหาซื้อมาได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนยุคใหม่จึงชื่นชอบ และหาซื้อคอนโดมากกว่า เนื่องจากความสะดวกสบายนั้นเอง แต่สำหรับใครที่มีครอบครัวอยู่แล้ว คงมีปัญหากังวลเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวที่เพิ่งมีลูกน้อยมาใหม่ๆ จะขายคอนโดไปอยู่บ้านตอนนี้เลย ก็อาจจะไม่พร้อม แบบนี้เราจะดุแลลูกน้องได้ยังไงกันนะ ?
เลี้ยงลูกน้อย ในคอนโด ต้องแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน
การจัดส่วนส่วน แบ่งห้องให้ดีนั้น นอกจากจะช่วยเลี่ยงกิจกรรมที่ส่งผลกระทบการนอนของเด็กๆ แล้ว ยังป้องกันเรื่องเสียงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ หากบริเวณที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนได้ดีแล้ว จะทำให้มีเวลาทำความสะอาดห้องได้ทั่วถึง ไม่กินเวลาในการดูแลลูกอีกด้วย
จัดพื้นที่สักส่วน ให้กลายเป็นแหล่งศูนย์กลางในการเลี้ยงดูเด็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลนั้นเอง นอกจากนี้ สัดส่วนดั่งกล่าวต้องเป็นพื้นที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนหรือหนาวมากไปด้วยล่ะ
เลี้ยงลูกในคอนโด อย่าลืมบุผนัง กันเสียงเล็ดรอดจากห้อง
ข้อนี้ คุณควรเริ่มต้นวางแผนกันตั้งแต่ตั้งท้องในช่วงแรกๆ เลย เพื่อให้มีเวลาต่อเติมห้อง โดยห้องที่ควรบุผนังกันเสียงต่างๆ ออกจากห้องควรจะเป็นห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่มักจะตั้งไว้เป็นเตียงเด็กๆ นั้นเอง
แน่นอนว่าการบุผนังไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันเสียงของลูกๆ เราเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันเสียงจากห้องข้างๆ ซึ่งจะส่งผลรบกวนการนอนของเด็กๆ ได้ดีอีกด้วย
และที่สำคัญ อย่าลืมการปิดประตู ปิดหน้าตาห้องให้ดี เพราะจะช่วยให้กันเสียงร้องไห้โย้เย้ของเด็กๆ หลุดออกมาได้เช่นกัน แน่นอนว่าก็ช่วยป้องกันเสียงจากภายนอกได้อีกด้วย และสำหรับใครที่ไมแน่ใจว่าห้องของตนนั้น สามารถกันเสียงได้มากน้อยแค่ไหน อย่าลืมสอบถามกับตัวแทนอย่างนิติบุคคลให้เรียบร้อย
ติดฟิล์มกันนิรภัยในกระจกคอนโด เพื่อความปลอดภัย
สำหรับเด็กเล็กๆ ในช่วง 1 – 5 เดือน อาจจะยังไม่มีปัญหาเท่าไรนัก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเด็กๆ เริ่มหัดเดิน หัดคลาน การป้องกันอันตรายโดยเฉพาะจากกระจก ที่เด็กๆ อาจจะเผลอซน ชนกระจกแตก หรือปาของเล่นใส่จนแตกได้
หากคุณมีงบประมาณที่มากพอ ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นกระจกนิรภัยไปเลยก็น่าสนใจ แต่ถ้าใครที่งบน้อย การติดฟิล์มนิรภัยนั้น จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำให้กระจกแตกได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อกระจกแตก เริ่มร้าว ตัวฟิล์มจะยังคงยึดกระจกเหล่านั้นไว้ได้ชั่วคร่าว ช่วยให้เด็กๆ ปลอดภัย ไม่โดนกระจกล้มทับ กระจกบาด ในทันที
นอกจากนี้ อย่าลืมติดตั้งลูกกรงเพื่อกันให้เด็กๆ เข้าไปป้วนเปี้ยนแถวริมประตูกระจกที่ระเบียง หรือช่วงระเบียงของคอนโดให้ดีด้วยล่ะ เพราะแม้จะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ถ้าพลาดพลั้งขึ้นมา เด็กๆ อาจจะพลั้งตกระเบียงคอนโดลงไปนั่นเอง
เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับ Size ของเด็ก
เมื่อมีเด็กในห้องก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับตัวเด็กในทุกๆ โซนของห้อง เช่น โต๊ะรับประทานอาหารก็ควรมีเก้าอี้ตัวเล็กที่มีสีหรือรูปทรงเข้ากับเก้าอี้ตัวอื่น, โซนนั่งเล่นก็มีโซฟาตัวเล็กที่เหมาะกับขนาดของเด็ก หรือถ้าห้องคอนโดมีขนาดใหญ่ก็ควรแต่งคอนโดโดยมีเตียงนอนขนาดเล็กให้กับเด็ก พร้อมแบ่งพื้นที่ห้องส่วนตัวให้ชัดเจน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องเฟอร์นิเจอร์ จะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนสำคัญกับครอบครัว ทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทำผนังกระดานดำสำหรับเด็ก
ผนังห้องเก่าดูไม่ดี หรือต้องการให้ผนังห้องดูสนุกมากขึ้น กำจัดปัญหาการขีดเขียนของเด็กๆ ก็ลองเปลี่ยนมาแต่งคอนโดโดยใช้เป็นผนังแบบกระดานดำที่สามารถขีดเขียนและลบได้อย่างง่ายดาย หรือใช้เป็นสีทาบ้านแบบลบได้ อย่าง Note & Clean, สีอะครีลิคกึ่งเงา หรือสีอะครีลิคแท้ 100% ที่ใช้เทคโนโลยีระดับนาโน เป็นต้น สีเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ลูกน้อยของเราสนุกสนานไปกับการวาดรูปและขีดเขียน แล้วลบออกได้อย่างง่ายดาย ยังมีความทนทาน ไม่ลอก ไม่หลุดง่าย และไม่ทำให้เกิดปัญหาแตกร้าวอีกด้วย
หลายคนอาจจะคิดว่า การดูแลเด็กเล็กในคอนโดนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก นอกจากนี้ยังสุ่มเสี่ยงต่อการรบกวนเพื่อนร่วมคอนโดอีกด้วย
แต่ถ้าคุณรับมือให้พร้อมหับห้องคอนโดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันบุผนังกันเสียง หรือเลือกคอนโดที่สามารถเก็บเสียงได้ดี แบ่งสัดส่วนห้องได้ชัดเจน การป้องกันอันตรายที่เด็กๆ อาจไปเล่นซนอย่าง ประตูกระจกระเบียง ด้วยกระจกนิรภัย หรือฟิล์มนิรภัย รวมไปถึงการจัดเฟอร์นิเจอร์เสียใหม่ จะช่วยให้คุณสามารถเลี้ยงเด็กๆ โดยที่ไม่เป็นปัญหากวนใจเพื่อนร่วมคอนโดได้อย่างแน่นอน
บางครอบครัวเพิ่งจะมีลูกน้อย การจะมองหาบ้านอยู่อาจจะยังไม่พร้อม แบบนี้เราจะดูลูกน้อยยังไงนะ ไม่ให้เกิดปัญหารบกวนผู้อื่น เมื่อต้องอยู่คอนโด
ปัจจุบันด้วยที่ดินที่มีราคาแพงทำให้ยากมากๆ ที่เราจะมีบ้านที่อยู่ใจกลางเมืองไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะกับแหล่งทำเลทอง ก็คงจะยากสำหรับคนธรรมดาทั่วไปจะหาซื้อมาได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนยุคใหม่จึงชื่นชอบ และหาซื้อคอนโดมากกว่า เนื่องจากความสะดวกสบายนั้นเอง แต่สำหรับใครที่มีครอบครัวอยู่แล้ว คงมีปัญหากังวลเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวที่เพิ่งมีลูกน้อยมาใหม่ๆ จะขายคอนโดไปอยู่บ้านตอนนี้เลย ก็อาจจะไม่พร้อม แบบนี้เราจะดุแลลูกน้องได้ยังไงกันนะ ?
เลี้ยงลูกน้อย ในคอนโด ต้องแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน
การจัดส่วนส่วน แบ่งห้องให้ดีนั้น นอกจากจะช่วยเลี่ยงกิจกรรมที่ส่งผลกระทบการนอนของเด็กๆ แล้ว ยังป้องกันเรื่องเสียงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ หากบริเวณที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนได้ดีแล้ว จะทำให้มีเวลาทำความสะอาดห้องได้ทั่วถึง ไม่กินเวลาในการดูแลลูกอีกด้วย
จัดพื้นที่สักส่วน ให้กลายเป็นแหล่งศูนย์กลางในการเลี้ยงดูเด็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลนั้นเอง นอกจากนี้ สัดส่วนดั่งกล่าวต้องเป็นพื้นที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนหรือหนาวมากไปด้วยล่ะ
เลี้ยงลูกในคอนโด อย่าลืมบุผนัง กันเสียงเล็ดรอดจากห้อง
ข้อนี้ คุณควรเริ่มต้นวางแผนกันตั้งแต่ตั้งท้องในช่วงแรกๆ เลย เพื่อให้มีเวลาต่อเติมห้อง โดยห้องที่ควรบุผนังกันเสียงต่างๆ ออกจากห้องควรจะเป็นห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่มักจะตั้งไว้เป็นเตียงเด็กๆ นั้นเอง
แน่นอนว่าการบุผนังไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันเสียงของลูกๆ เราเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันเสียงจากห้องข้างๆ ซึ่งจะส่งผลรบกวนการนอนของเด็กๆ ได้ดีอีกด้วย
และที่สำคัญ อย่าลืมการปิดประตู ปิดหน้าตาห้องให้ดี เพราะจะช่วยให้กันเสียงร้องไห้โย้เย้ของเด็กๆ หลุดออกมาได้เช่นกัน แน่นอนว่าก็ช่วยป้องกันเสียงจากภายนอกได้อีกด้วย และสำหรับใครที่ไมแน่ใจว่าห้องของตนนั้น สามารถกันเสียงได้มากน้อยแค่ไหน อย่าลืมสอบถามกับตัวแทนอย่างนิติบุคคลให้เรียบร้อย
ติดฟิล์มกันนิรภัยในกระจกคอนโด เพื่อความปลอดภัย
สำหรับเด็กเล็กๆ ในช่วง 1 – 5 เดือน อาจจะยังไม่มีปัญหาเท่าไรนัก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเด็กๆ เริ่มหัดเดิน หัดคลาน การป้องกันอันตรายโดยเฉพาะจากกระจก ที่เด็กๆ อาจจะเผลอซน ชนกระจกแตก หรือปาของเล่นใส่จนแตกได้
หากคุณมีงบประมาณที่มากพอ ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นกระจกนิรภัยไปเลยก็น่าสนใจ แต่ถ้าใครที่งบน้อย การติดฟิล์มนิรภัยนั้น จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำให้กระจกแตกได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อกระจกแตก เริ่มร้าว ตัวฟิล์มจะยังคงยึดกระจกเหล่านั้นไว้ได้ชั่วคร่าว ช่วยให้เด็กๆ ปลอดภัย ไม่โดนกระจกล้มทับ กระจกบาด ในทันที
นอกจากนี้ อย่าลืมติดตั้งลูกกรงเพื่อกันให้เด็กๆ เข้าไปป้วนเปี้ยนแถวริมประตูกระจกที่ระเบียง หรือช่วงระเบียงของคอนโดให้ดีด้วยล่ะ เพราะแม้จะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ถ้าพลาดพลั้งขึ้นมา เด็กๆ อาจจะพลั้งตกระเบียงคอนโดลงไปนั่นเอง
เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับ Size ของเด็ก
เมื่อมีเด็กในห้องก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับตัวเด็กในทุกๆ โซนของห้อง เช่น โต๊ะรับประทานอาหารก็ควรมีเก้าอี้ตัวเล็กที่มีสีหรือรูปทรงเข้ากับเก้าอี้ตัวอื่น, โซนนั่งเล่นก็มีโซฟาตัวเล็กที่เหมาะกับขนาดของเด็ก หรือถ้าห้องคอนโดมีขนาดใหญ่ก็ควรแต่งคอนโดโดยมีเตียงนอนขนาดเล็กให้กับเด็ก พร้อมแบ่งพื้นที่ห้องส่วนตัวให้ชัดเจน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องเฟอร์นิเจอร์ จะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนสำคัญกับครอบครัว ทำให้ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทำผนังกระดานดำสำหรับเด็ก
ผนังห้องเก่าดูไม่ดี หรือต้องการให้ผนังห้องดูสนุกมากขึ้น กำจัดปัญหาการขีดเขียนของเด็กๆ ก็ลองเปลี่ยนมาแต่งคอนโดโดยใช้เป็นผนังแบบกระดานดำที่สามารถขีดเขียนและลบได้อย่างง่ายดาย หรือใช้เป็นสีทาบ้านแบบลบได้ อย่าง Note & Clean, สีอะครีลิคกึ่งเงา หรือสีอะครีลิคแท้ 100% ที่ใช้เทคโนโลยีระดับนาโน เป็นต้น สีเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ลูกน้อยของเราสนุกสนานไปกับการวาดรูปและขีดเขียน แล้วลบออกได้อย่างง่ายดาย ยังมีความทนทาน ไม่ลอก ไม่หลุดง่าย และไม่ทำให้เกิดปัญหาแตกร้าวอีกด้วย
หลายคนอาจจะคิดว่า การดูแลเด็กเล็กในคอนโดนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก นอกจากนี้ยังสุ่มเสี่ยงต่อการรบกวนเพื่อนร่วมคอนโดอีกด้วย
แต่ถ้าคุณรับมือให้พร้อมหับห้องคอนโดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันบุผนังกันเสียง หรือเลือกคอนโดที่สามารถเก็บเสียงได้ดี แบ่งสัดส่วนห้องได้ชัดเจน การป้องกันอันตรายที่เด็กๆ อาจไปเล่นซนอย่าง ประตูกระจกระเบียง ด้วยกระจกนิรภัย หรือฟิล์มนิรภัย รวมไปถึงการจัดเฟอร์นิเจอร์เสียใหม่ จะช่วยให้คุณสามารถเลี้ยงเด็กๆ โดยที่ไม่เป็นปัญหากวนใจเพื่อนร่วมคอนโดได้อย่างแน่นอน
ข่าวสารแนะนำ